ประวัติโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก
โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก เดิมชื่อ “โรงเรียนกรมหลวงวรเสฐ” ตามพระนามของพระอัยยิกาเธอกรมหลวงวรเสฐสุดา พระธิดาองค์สุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นโรงเรียนที่เปิดทำการสอนระดับใด และเมื่อใด มีข้อมูลจากการบอกเล่าว่า “โรงเรียนวัดปรินายก” สร้างขึ้นหลังจากที่ พระอัยยิกาเธอกรมหลวงวรเสฐสุดา สิ้นพระชนม์ (ปีพุทธศักราช 2450) โดยก่อนสิ้นพระชนม์ พระองค์ท่านมีพระประสงค์จะพระราชทานตำหนักที่ประทับ พร้อมทั้งอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ อาทิ โต๊ะ ตู้ นาฬิกา ฯลฯ ให้ใช้เป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียน ของศิษย์วัด กุลบุตรและกุลธิดาทั่วไป ดังนั้นเมื่อ
พระอัยยิกาเธอกรมหลวงวรเสฐสุดา สิ้นพระชนม์ พระประยูรญาติ จึงนำตำหนักมาปรับปรุงเป็นโรงเรียนตามพระประสงค์ แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกว่า “โรงเรียนวัดปรินายก”
พระอมรเมธาจารย์ (สุคนธ์ ปภากโร) เจ้าอาวาสวัดปรินายกวรวิหารได้ให้ข้อมูลว่า เดิมโรงเรียนกรมหลวงวรเสฐ เป็นโรงเรียนที่เปิดทำการสอนระดับมัธยม ต่อมาเปิดทำการสอนเพียงระดับประถม ผู้คนนิยมเรียกชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนวัดปรินายก” มากกว่าเรียกชื่อ “โรงเรียนกรมหลวงวรเสฐ” คงเป็นเพราะโรงเรียนตั้งอยู่ในวัด
นายนาม พูนวัตถุ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนวัดปรินายก ได้ให้ข้อมูลว่า “เมื่อปีพุทธศักราช 2461 ท่านอายุประมาณ 8 ขวบ ขณะที่ผมเป็นศิษย์วัดเทพธิดาราม ได้เข้าเรียน
ชั้น ป.1 ณ โรงเรียนวัดปรินายก ตัวอาคารเรียนเป็นอาคารไม้ เท่าที่จำได้เปิดทำการสอน ชั้น ป.1-ป.3 ผมเรียนได้เพียงชั้น ป.1 แล้วย้ายไปเรียนต่อ ป.2 ที่โรงเรียนวัดสระเกศ เหตุที่อายุน้อยเกินไปจึงจำไม่ได้ว่าครูประจำชั้นและครูใหญ่ขณะนั้นชื่ออะไร เดิมโรงเรียนวัดปรินายก จะใช้ชื่อโรงเรียนว่าอะไรนั้นก็จำไม่ได้เช่นเดียวกัน”
โรงเรียนวัดปรินายก เปิดทำการสอนต่อเนื่องมาจนกระทั่งกระทรวงธรรมการสั่งยุบโรงเรียน ให้ไปรวมกับโรงเรียนวัดโสมนัสโดยขนย้ายทรัพย์สินและอุปกรณ์เครื่องใช้ ตลอดจนสิ่งของที่ได้รับพระราชทานไปด้วย คงเหลือไว้แต่อาคารเรียนที่มีชื่อว่า “โรงเรียนกรมหลวงวรเสฐ” ทางวัดปรินายกวรวิหาร เห็นว่าอาคารเรียนถูกทิ้งร้างไว้อาจจะทรุดโทรมเสียหาย จึงได้จัดให้เป็นที่อยู่ของพระภิกษุสามเณรและใช้เป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม แก่พระภิกษุสามเณรได้ประมาณ 1 ปี เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงเรียนพระปริยัติธรรมจึงต้องปิดพระภิกษุต่างก็แยกย้ายกันไป คงเหลือพระภิกษุเฝ้าดูแลวัดเพียง 3 รูป อาคารเรียนจึงถูกปล่อยว่างไว้อีกระยะหนึ่ง
พ.ศ. 2486 ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทวีความรุนแรงขึ้น “โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ” สังกัดกรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการต้องปิดทำการสอน ทางราชการได้เจรจาขอความกรุณาจาก พระวิสุทธินายก (เล็ก ศรีวิพันธ์) ขอขนย้ายทรัพย์สิน เครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ ของโรงเรียนส่วนหนึ่งมาฝากไว้ที่อาคารเรียน “โรงเรียนกรมหลวงวรเสฐ”
พ.ศ.2488 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลงโรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ ก็ยังไม่สามารถเปิดทำการสอนได้ตามปกติ ทั้งนี้เนื่องมาจากสถานที่ของโรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ ได้ถูกดัดแปลงเป็นกองบัญชาการ และเป็นที่พักของทหารหน่วยสัมพันธมิตร กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ให้โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศย้ายมาเปิดทำการสอนที่วัดปรินายก โดยใช้อาคารเรียนกรมหลวงวรเสฐเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะกลับคืนสู่สถานที่เดิมได้
พ.ศ.2489 โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ (เดิม) สามารถเปิดทำการสอนได้ตามปกติ กระทรวงศึกษาธิการ ก็ยังคงอนุญาตให้โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ ที่เปิดทำการสอน ณ อาคารกรมหลวงวรเสฐ วัดปรินายก เปิดทำการสอนสอนต่อไปตามเดิม โดยใช้ชื่อโรงเรียนนี้ว่า “โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ สาขาวัดปรินายก”
17 พฤษภาคม 2495 โรงเรียนละอออุทิศ สาขาวัดปรินายก ได้โอนไปสังกัด กองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการและใช้ชื่อใหม่ว่า “ โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก”
1 เมษายน 2522 ได้โอนจากกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการไปสังกัดกองการประถมศึกษา กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
1 ตุลาคม 2523 ได้โอนไปสังกัด สำนักงานการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ
7 กรกฎาคม 2546 ได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ จากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ มาเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พ.ศ.2546 โอนจากสำนักงานการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร มาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ.2553 โอนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต1 มาสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษากรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการจนถึงปัจจุบัน
สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ
พ.ศ.2496 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารไม้ 1 หลัง เพื่อใช้เป็นอาคารเรียนชั้นประถมศึกษา
พ.ศ.2498 ได้รับงบประมาณต่อเติมอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น
พ.ศ.2499 ได้รับงบประมาณ 300,00.00 บาท ก่อสร้างอาคารไม้ 2 ชั้น เป็นที่เรียนชั้นประถมศึกษา
พ.ศ.2500 ได้รับงบประมาณ 500,000.00 บาทรื้ออาคารเรียนหลังเก่าสำหรับนักเรียนอนุบาล แล้วสร้างใหม่เป็นอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น
พ.ศ.2515 ได้รับงบประมาณ 2,800,000.00 บาท สร้างอาคารเรียนเป็นตึก 3 ชั้น ซึ่งใช้เป็นสถานที่เรียนของนักเรียนในปัจจุบัน โดยใช้ชื่อว่า “อาคารเรียนกรมหลวงวรเสฐ”
พ.ศ.2519 ได้รับงบประมาณ ก่อสร้างอาคารชั่วคราว แบบ 004 ขนาด 3 ห้องเรียน
พ.ศ.2528 ได้รับงบประมาณ 5,240,000.00 บาทสร้างอาคารเรียนถาวรเป็นตึก 4 ชั้นแบบพิเศษ แทนอาคารเรียนชั่วคราว โดยได้รับความกรุณาจาก พระครูนายกจริยานุวัตร เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์วัดปรินายกมอบที่ดินให้ก่อสร้าง และใช้ชื่ออาคารเรียนหลังนี้ว่า “อาคารเรียนนายกจริยานุวัตร”สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดป้าย อาคารเรียน เมื่อวัพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2531
พ.ศ.2538 ได้รับงบประมาณ 1,650,000.00 บาทต่อเติมอาคารเรียนกรมหลวงวรเสฐ 2 ห้องเรียน 1 ห้องน้ำ
- ได้รับงบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัดของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 890,000.00 บาทสร้างอาคารอเนกประสงค์ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว อยู่ด้านหลังอาคารกรมหลวงวรเสฐ
พ.ศ.2539-พ.ศ. 2540 ได้รับเงินบริจาค จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 880,000.00 บาท เพื่อปรับปรุงห้องประชุมและห้องสมุดโรงเรียน
พ.ศ.2543 ได้รับเงินบริจาค จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 1,081,000.00 บาทเพื่อปรับปรุงห้องปฏิบัติการและซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์
พ.ศ.2547 จัดทำห้องเรียนตามโครงการ โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (MEP) ชั้น ป.1 จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2548 ปรับปรุงห้องสมุด และห้องโสตทัศนศึกษา ติดตั้งระบบสัญญาณโทรทัศน์ทุกห้องเรียน เป็นเงิน 648,525.00 บาท
- จัดให้มีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพิ่มอีก 1 ห้อง ห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์ 1 ห้องและจัดทำห้องเรียนตามโครงการ โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (MEP) จำนวน 2 ห้อง
- จัดทำศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Access Learning Center) จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2549 จัดทำศูนย์พัฒนาทักษะการคิด (Thinking Center) จำนวน 1 ห้อง
- จัดทำห้องเรียนตามโครงการ โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (MEP) จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2550 จัดทำห้องเรียนตามโครงการ โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (MEP) ชั้น ป. 5 จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2551 ปรับปรุงปูกระเบื้องบันไดอาคารกรมหลวงวรเสฐ เป็นเงิน149,029.00 บาท
- จัดทำห้องเรียนตามโครงการ โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (MEP) ชั้น ป.6 จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2552 ปรับปรุงห้องน้ำนักเรียน ชั้น 1 อาคารการมหลวงวรเสฐ จำนวน 10 ห้อง
- ปูพื้นกระเบื้องระเบียงชั้น1-4 / ทาสีห้องเรียนชั้นอนุบาล 1-2 อาคารนายกจริยานุวัตร
- จัดซื้อระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ห้องสมุด เป็นเงิน 169,00.00 บาท
พ.ศ.2553 ปรับปรุงศูนย์อัจฉริยภาพการเรียนรู้ (Resource Center) เป็นเงิน 488,00.00 บาท
- จัดทำศูนย์สื่อปฐมวัย จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2554 จัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้ง จำนวน 82 เครื่อง เป็นเงิน 1,485,000.00 บาท
พ.ศ.2555 ได้รับรางวัลพระราชทาน รางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ (ชมเชย) ของมูลนิธิธารน้ำใจ
พ.ศ.2556 จัดทำห้องสมุดอาเซียน ชั้น 3 อาคารกรมหลวงวรเสฐ เรียนตามโครงการโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตร กระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (MEP) ป.6 จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2557 ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปรับปรุงพื้นคอนกรีตอาคารนายกจริยานุวัตร และห้องประชุมกรมหลวงวรเสรฐ
พ.ศ.2561 (3 มค.61)ได้รับการติดตั้งประปาใหม่ สำหรับตึกนายกจริยานุวัตร งบประมาณจาก พระมหาปณิธาน โชติปัญโญ พระเลขานุการวัดปรินายกวรวิหาร ขนาดมาตรวัดน้ำ ศก.1 ½ นิ้ว งบประมาณ 13,375.-บาท
พ.ศ.2561 ได้รับการติดตั้งกล้องวงจรปิด 8 ตัว งบประมาณจากเครือข่ายผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2556-2560 งบประมาณ 65,000 บาท
พ.ศ.2561 ได้รับเครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่ งบประมาณจากเครือข่ายผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2556-2560 งบประมาณ 108,900 บาท
พ.ศ.2562 จัดทำสนามเด็กเล่นในร่ม งบประมาณจำนวน 400,000 บาท จากพระเดชพระคุณท่านพระพิพัฒจริยาลังการ เจ้าอาวาสวัดปรินายกวรวิหาร องค์อุปถัมภ์ เปิดใช้เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 พ.ศ.2562
พ.ศ.2562 ติดตั้งหลังคาโรงอาหารเพิ่มเติม ซ้อมบำรุงศาลาพักคอยทาสีใหม่ ติดนวมเสา 10 ต้น ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ซ่อมบำรุงบอร์ดนิทรรศการเคลื่อนที่ ด้วยงบประมาณจำนวน 158,000 บาท จากการระดมทุนของเครือข่ายผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562
|